ชายชาวตุรกีเจาะกำแพงเพื่อต่อเติมบ้าน แต่พบเมืองใต้ดินในบ้านตัวเอง!

   ตลึง ตลึง ตลึง ตลึง ตลึง ตึง ตึง ตึง ตลึงงันกันเลยทีเดียว ถ้าเกิดสมมุติว่าเราเกิดจะขุดใต้ที่พักของเราแต่ดันพบโบราณวัตถุยังพอเข้าใจเพราะมันอาจจะหลงเหลือจากสมัยก่อน แต่นี่ดันขุดพบเจอโบราณสถาน แถมขนาดให้มากๆด้วยจะเป็นยังไงนั้นไปดูกันค่ะ..

   ในปี 1963 ชายชาวตุรกีคนหนึ่งในเมือง Nevşehir ประเทศตุรกี คิดจะต่อเติมบ้านเขาได้เจาะผนังบ้าน แล้วสิ่งที่พบทำให้เขาต้องช็อกเพราะหลังกำแพงนั้น เขาได้พบห้องลับจำนวนมาก รวมไปถึงเจอระบบอุโมงค์ขนาดใหญ่ที่ซับซ้อน ต่อไปยังอีกหลายๆ ห้อง ลึกลงไปกว่า 60 เมตรและมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะให้คน 20,000 คนมาอยู่ใช่แล้ว มันคือเมืองใต้ดินขนาดใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งถูกซ่อนมานานนับหลายศตวรรษนั่นเอง

                                       

    ปัจจุบัน สิ่งที่เขาได้ค้นพบหลังกำแพงบ้าน ได้กลายเป็น Derinkuyu underground city หรือเมืองใต้ดินเดอรินกูยู

    นักโบราณคดีได้มาทำการสำรวจและพบว่า นี่คือเมืองใต้ดินซึ่งอยู่ในสมัยจักรวรรดิเมเดียน 

และได้ทำการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมตั้งแต่ปี 1969 เป็นต้นมา

   เจ้าอุโมงค์นี้พาเขาเข้าไปสู่เมืองใต้ดินที่เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินอันสลับซับซ้อน และนี่ก็เป็นเพียงหนึ่งในเมืองใต้ดินที่ถูกสร้างขึ้นด้วยก้อนหินใน Cappadocia  มานานกว่าพันปีแล้ว

   เมืองใต้ดิน Derinkuyu แห่งนี้คือเมืองที่อยู่ลึกสุดๆไปเลยนะเมี๊ยวเพราะมันถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันชาวเมืองจากสงครามและภัยธรรมชาติ

   ที่นี่มีบ่อน้ำ ร้านค้า ห้องสาธารณะ สุสาน คลังแสง ที่เลี้ยงสัตว์ และยังมีห้องเรียนด้วยค่ะ

   ถ้าพังกำแพงบ้านตัวเองแล้วดันไปเจออุโมงค์หินแบบนี้ก็ต้องตกใจกันทั้งนั้นแหล่ะ จริงมั้ยเอ่ย แต่ก็ถือเป็นการค้นพบที่ดีนะคะ มีบ้านติดกับเมืองใต้ดิน เท่ไปอีกแบบ จะว่าไปทุกคนลองขุดกันเลยค่ะ อ่ะ!!ไม่ใช่ค่ะ ห้ามขุด ห้ามพังเด็ดขาดเลยนะคะ เพราะใช่ว่าทุกที่จะมีประวัติศาสตร์กันนะ^^